เลื่อยไม้ประเภทใดบ้างที่ควรมีติดบ้านไว้และมีวิธีการเลือกซื้อและดูแลอย่างไร

เลื่อยถือได้ว่าเป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ช่างในบ้านต้องมี โดยตัวเลื่อยนั้นจะมีประโยชน์หลัก ๆ ก็คือ ใช้ตัดหรือซอยชิ้นงานให้ได้ขนาดตามต้องการ ปัจจุบันมีให้เลือกมากมายหลายชนิดสามารถแบ่งได้ตามวัสดุที่นำมาตัด เช่น เลื่อยไม้ หรือเลื่อยโลหะ ดังนั้นการเลือกใช้เลื่อยให้เหมาะกับงานจึงเป็นเรื่องที่เราไม่ควรมองข้าม รวมถึงความชำนาญงานที่ต้องหมั่นฝึกปรือฝีมืออยู่เสมอ ตลอดจนเทคนิคต่าง ๆ เพื่อให้เราสามารถใช้เลื่อยได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงเลื่อยไม้ที่ทุกบ้านจะต้องมีว่ามีวิธีการเลือกซื้อ การใช้งานและการดูแลรักษาอย่างไร เรามาดูกัน

งานเลื่อยประเภทใดบ้างที่ควรมีติดบ้านไว้

งานเลื่อย หากต้องการทำงาน DIY หรือ งานช่าง สักงานคงเป็นอุปกรณ์หลักที่ขาดไม่ได้เลย แต่หลาย ๆ บ้านเป็นกังวล แม้ว้าเลื่อยจะเป็นอุปกรณ์พื้นฐาน แต่ปัญหาคือไม่รู้ว่าจะเลือกใช้เลื่อยประเภทไหนให้เหมาะกับ การใช้งานเลื่อย ที่แตกต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้เรามีคำตอบและคำแนะนำการใช้ งานเลื่อย มาฝากทุกบ้านที่ต้องทำงาน DIY และงานช่างกัน

ประเภทของเลื่อย เลือกอย่างไรให้เหมาะกับงานช่าง

เลื่อยลันดา (Hand Saw)

คุณพ่อบ้านแทบทุกบ้านที่ชอบงานเลื่อย ต้องรู้จัก และมี เลื่อยลันดา ติดบ้านไว้ใช้สอย ด้วยลักษณะของเลื่อยลันดาที่มีลักษณะเป็นแผ่น โคนใหญ่ปลายเรียว และมีซี่ฟันที่เรียงกันเป็นระเบียบตลอดความยาวของใบเลื่อย และมีมือจับ จึงทำให้เหมาะกับงานช่างไม้ และงานช่างก่อสร้าง โดยใช้สำหรับเลื่อยตัดซอยแปรรูปไม้ได้อย่างสะดวกสบาย ส่วนใหญ่แล้วเลื่อยลันดาจะมีความยาวให้เลือกใช้ตั้งแต่ 16-24 นิ้ว ตามความเหมาะสม เช่น

  • เลื่อยลันดาชนิดตัด มีความถี่ของฟันประมาณ 8-12 ซี่ ใช้สำหรับไม้ตามขวางของเสี้ยนไม้
  • เลื่อยลันดาชนิดโกรก ใช้สำหรับโกรกหรือผ่าไม้ ความเอียงของฟันเลื่อยจะมีองศาที่เอียงมากกว่าเลื่อยตัด มีจำนวนฟันประมาณ 5-8 ซี่

เลื่อยหางหนู (Keyhole Saw)

สำหรับใครที่ชอบทำงาน DIY ประเภทงานฉลุ หรือเลื่อยส่วนโค้งที่มีความยาวไม่มากนัก อย่างการเลื่อยส่วนโค้งเพื่อประกอบรูปทรงเฟอร์นิเจอร์ หรือใช้เจาะฝ้า ผนังยิปซัม เลื่อยหางหนู หรือหลาย ๆ คนเรียกว่าเลื่อยฉลุ ฝ้าสามารถใช้งานได้ เพราะด้วยลักษณะของตัวเลื่อยที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ลักษณะใบเลื่อยยาวไปจนถึงด้ามจับ ปลายเรียวแหลมและคมมาก โดยสามารถถอดเก็บ และเปลี่ยนใบเลื่อยได้ จึงทำให้ งานเลื่อย สะดวกสบายในการใช้งาน หรือบางบ้านอาจจะนำไปเป็นเครื่องมือตัดแต่งกิ่งไม้เลื้อยได้อีกด้วย

เลื่อยฉลุ (Coping Saw)

หากต้องการสร้างงาน DIY ด้วยลวดลายบนไม้ เลื่อยฉลุ เป็นตัวเลือกที่ดีที่นิยมใช้กันมาก ส่วนใหญ่จะนำมาใช้ฉลุไม้ งานตัดมุมโค้ง มุมแคบ เหมาะกับงานชิ้นไม่ใหญ่ เพราะลักษณะของเลื่อยมีขนาดบาง และเล็ก ใบเลื่อยมีความอ่อนตัว เหมือนเส้นลวด การใช้งานเลื่อย จึงต้องขึงใบเลื่อยกับด้าม และคันเลื่อยให้ตึงก่อนใช้งานทุกครั้ง และเมื่อใช้งานเสร็จแนะนำให้คลายความตึงของใบเลื่อยทันทีก่อนเก็บเข้าที่

เลื่อยคันธนู (Bow Saw)

คุณพ่อบ้าน และคุณแม่บ้านที่ชอบทำสวน ไม่ควรมองข้าม งานเลื่อย และควรมี เลื่อยคันธนู ไว้ติดบ้าน เพื่อใช้สำหรับเลื่อยตัดกิ่งไม้ ทั้งไม้สดและไม่แห้ง หรือจะใช้ตัดลำต้นไม้ขนาดเล็ก เพื่อตกแต่ง รวมถึงใช้ทำเป็นไม้ฟืน ลักษณะของตัวเลื่อยมีความคล้ายกับคันธนู ใบเลื่อยมีความแกร่ง และความคมเป็นพิเศษเพราะผลิตจากเหล็กกล้า และชุบแข็งที่ฟันเลื่อย ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาได้สะดวก มีให้เลือกใช้หลากหลายขนาดขึ้นกับความต้องการใช้งาน อาทิ 12 นิ้ว 21 นิ้ว 24 นิ้ว และ 30 นิ้ว เลย

วิธีการเลือกเลื่อยให้เหมาะกับการใช้งาน

สิ่งสำคัญสำหรับการเลือกซื้ออุปกรณ์งานช่าง คือ การเลือกซื้อให้ถูกประเภท เนื่องจากอุปกรณ์แต่ละชนิดนั้นได้รับการออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานที่ต่างกันและยังให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันด้วย สำหรับการเลือกซื้อเลื่อยก็เช่นกันค่ะ หากต้องการผลลัพธ์ที่ดีก็ควรศึกษาวิธีการเลือกเลื่อยที่ถูกต้อง เพื่อจะได้เลือกซื้อเลื่อยได้อย่างเหมาะสมนั่นเอง

เลือกประเภทของเลื่อยให้เหมาะสมกับการใช้งาน

แม้ว่าเลื่อยจะเป็นอุปกรณ์การช่างที่หลายคนคุ้นเคย แต่จริง ๆ แล้วเลื่อยก็มีหลากหลายประเภทให้เลือกใช้งานตามจุดประสงค์ที่แตกต่างกันไป สำหรับคำแนะนำที่ดีที่สุดนั้นก็คือ ควรเลือกใช้งานให้ถูกประเภทเพื่อให้งานออกมามีประสิทธิภาพที่สุด ทั้งยังปลอดภัยต่อการใช้งานด้วย

ศึกษาวิธีการใช้งานที่ถูกต้องและข้อควรระวังในการใช้งานเลื่อย

นอกจากการเลือกประเภทของเลื่อยให้เหมาะสมกับการใช้งานแล้ว เรายังควรศึกษาวิธีการใช้งานอย่างละเอียด รวมถึงข้อควรระวังในการใช้งานด้วยค่ะ เนื่องจากเลื่อยเป็นอุปกรณ์งานช่างที่เป็นของมีคมและเป็นอันตรายได้หากใช้อย่างไม่ระมัดระวัง ดังนั้น เมื่อเลือกซื้อเลื่อยมาแล้ว ควรอ่านข้อมูลและคำแนะนำสินค้าอย่างละเอียดว่า สินค้ารุ่นที่เลือกมานั้นควรใช้ใบเลื่อยขนาดเท่าไร หรือมีวิธีการจัดเก็บอย่างไร เพื่อการใช้งานที่ยาวนานและเพื่อป้องกันอันตรายจากใบเลื่อยที่หลวม

วิธีการดูแลรักษาเลื่อยที่ถูกต้อง ต้องทำอย่างไร

สำหรับวิธีการเก็บรักษาเบื้องต้น คือ การทำความสะอาดทุกครั้งหลังใช้งานและทาด้วยน้ำมัน หลังจากนั้นจึงนำไปเก็บเข้าที่ให้มิดชิดและห่างไกลจากมือเด็กค่ะ เนื่องจากเลื่อยเป็นอุปกรณ์มีคม หากใช้งานไม่ระวังอาจทำให้บาดเจ็บได้ นอกจากนี้ ยังควรตรวจสอบอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ หากมีจุดที่ชำรุดจะได้ซ่อมแซมได้ทันนั่นเอง